ค่ารักษาพยาบาล ทุกวันนี้ จำเป็นต้องมีประกันสุขภาพ เป็นความจำเป็นสำหรับทุกคนที่ไม่มีสวัสดิการของรัฐ หรือบริษัท ค่ารักษาพยาบาลประเภทแบบเหมาจ่าย เป็นทางเลือกที่ทำให้การเจ็บป่วยแต่ละครั้ง ไม่ต้องกังวล เริ่มด้วย ค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย 1 ล้าน ถึงค่ารักษาพยาบาล 25 ล้านบาท

Health

ค่ารักษาพยาบาล

ค่ารักษาพยาบาล AIA Health Happy (เหมาจ่าย) – แนวทางการนำเสนอเพื่อเตรียมความพร้อมให้ลูกค้า

AIA Health Happy เป็นประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายที่ให้ความคุ้มครองทั้งผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD)(เฉพาะแผน 25 ล้าน) เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการความคุ้มครองสุขภาพแบบครอบคลุมในราคาเบี้ยประกันที่จ่ายได้


1. กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ AIA Health Happy

✅ วัยทำงานอายุ 25-45 ปี ที่ต้องการประกันสุขภาพพื้นฐาน
✅ ผู้มีรายได้ปานกลาง (ประมาณ 20,000-50,000 บาท/เดือน)
✅ คนที่กังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชน
✅ ผู้ที่ไม่มีประกันสังคมหรือประกันกลุ่มจากบริษัท


2. จุดเด่นของ AIA Health Happy

ความคุ้มครองรายละเอียด
ผู้ป่วยใน (IPD)คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายตามจริง (ไม่เกินวงเงินต่อปี)
ผู้ป่วยนอก (OPD)คุ้มครองค่าหมอและยาตามเงื่อนไข (แผน 25 ล้านบาท)
โรคร้ายแรง (Critical Illness)คุ้มครองการรักษาโรคมะเร็ง หัวใจ สโตรก ฯลฯ (บางแผน)
ค่าห้องและค่าอาหารคุ้มครองค่าห้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
การผ่าตัดคุ้มครองค่าผ่าตัดตามประเภทการรักษา
เบี้ยประกันพอจ่ายได้เริ่มต้นเพียง 15,000 – 30,000 บาท/ปี (ขึ้นอยู่กับอายุและแผนความคุ้มครองที่เลือก เริ่มต้นแผน 1 ล้าน)

3. เหตุผลที่ลูกค้าควรซื้อ AIA Health Happy

(1) ช่วยลดภาระค่ารักษาพยาบาล

  • ค่ารักษาโรงพยาบาลเอกชนสูงมาก เช่น ค่าผ่าตัดเล็กอาจเริ่มต้นที่ 50,000 – 100,000 บาท
  • ประกันสังคมหรือบัตรทองอาจไม่เพียงพอ (บางโรคต้องรอคิวนาน หรือไม่ครอบคลุมการรักษาแบบพิเศษ)

ตัวอย่างการนำเสนอ:
“ค่ารักษาพยาบาลวันนี้แพงขึ้นทุกปี แค่เข้าโรงพยาบาลเอกชนครั้งเดียวก็อาจเสียเงินหลักหมื่นถึงแสน แต่ถ้ามีประกันสุขภาพ AIA Health Happy คุณจ่ายแค่ปีละ 15,000-30,000 บาท (ตามแผนที่เลือก) ก็ช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้ค่ะ”

(2) ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินเก็บเมื่อป่วย

  • หากลูกค้าไม่มีประกันสุขภาพ อาจต้องใช้เงินเก็บหรือกู้ยืมเมื่อเจ็บป่วยฉุกเฉิน

ตัวอย่างการนำเสนอ:
“คุณเคยคิดไหมว่าถ้าวันนึงต้องนอนโรงพยาบาล เงินเก็บของคุณจะพอไหม? AIA Health Happy ช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ค่ะ”

(3) เลือกแผนความคุ้มครองได้ตามความต้องการ

  • AIA Health Happy มีหลายแผน เช่น แผน 1 ล้าน ถึงแผน 25 ล้าน ให้เลือกตามงบประมาณ

ตัวอย่างเปรียบเทียบ:

แผนวงเงิน IPD/ปีOPD/ครั้งเบี้ยประกัน (อายุ 30 ปี)
แผน 1 ล้านเหมาจ่ายตามจริงไม่เกินแผนไม่คุ้มครอง~15,000 บาท/ปี
แผน 25 ล้านเหมาจ่ายตามจริงไม่เกินแผน2,000 บาท~34,000 บาท/ปี

4. วิธีนำเสนอ AIA Health Happy ให้โดนใจลูกค้า

(1) เน้น Pain Point ของลูกค้า

  • “ถ้าวันนึงคุณต้องผ่าตัดด่วน แต่ไม่มีประกันสุขภาพ คุณพร้อมจ่ายเงินก้อนใหญ่ไหมครับ?”

(2) เปรียบเทียบกับค่ารักษาจริง

  • “ค่ารักษา COVID-19 ในโรงพยาบาลเอกชนเฉลี่ย 100,000 – 500,000 บาท แต่ถ้ามีประกันนี้ คุณจ่ายแค่เบี้ยปีละหมื่นกว่า ถึงสามหมื่นกว่า ตามแผนที่เลือก”

(3) ยกตัวอย่างกรณีศึกษา

  • “ลูกค้าคนหนึ่งไม่ได้ทำประกันสุขภาพ พอป่วยเป็นไส้ติ่งอักเสบต้องจ่ายค่ารักษาเอง 80,000 บาท แต่ถ้ามี AIA Health Happy อยู่ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้เลยค่ะ”

(4) เสริมด้วยบริการหลังการขาย

  • “นอกจากความคุ้มครองแล้ว ผม/ดิฉันจะช่วยดูแลเรื่องการเคลมให้คุณทุกขั้นตอนค่ะ”

5. แผนประกันเสริมที่แนะนำให้ combine กับ AIA Health Happy

เพื่อให้ลูกค้ามีความคุ้มครองรอบด้านมากขึ้น สามารถเสนอแบบประกันอื่นร่วมด้วย เช่น:

  • AIA Critical Care (โรคร้ายแรง) – คุ้มครองมะเร็ง, หัวใจ, สโตรก
  • AIA Personal Accident (อุบัติเหตุ) – คุ้มครองการเสียชีวิต/ทุพพลภาพจากอุบัติเหตุ

6. สรุป: ทำไมลูกค้าควรซื้อ AIA Health Happy?

🔹 เบี้ยไม่แพงมากนัก แต่คุ้มครองสูง
🔹 ลดความเสี่ยงทางการเงิน เมื่อเจ็บป่วยหรือต้องรักษาโรงพยาบาลเอกชน
🔹 มีบริการช่วยเหลือตลอด 24 ชม. ในกรณีเจอเหตุฉุกเฉิน

💡 เคล็ดลับ: หากลูกค้ายังไม่แน่ใจ ให้เสนอ แผนทดลองจ่ายเบี้ยรายเดือน ก่อน เพื่อลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย

สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่า “สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องเตรียมตัวไว้ก่อน”

ค่ารักษาพยาบาล แบบเหมาจ่าย

สนใจ ประกันสุขภาพเหมาจ่าย แจ้งข้อมูลท่านที่นี่

ตัวอย่างประโยคชวนทำประกัน (โฟกัสที่ความคุ้มครองและประโยชน์ที่ได้รับ)

1. แนวทางการป้องกันความเสี่ยง

“คุณรู้ไหมว่าแค่เดือนละพันกว่าบาท ก็สามารถป้องกันค่ารักษาพยาบาลหลักล้านได้? ถ้าวันนึงเกิดป่วยหรืออุบัติเหตุขึ้นมา จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินนะครับ”

2. เน้นการวางแผนทางการเงิน

“ถ้ามีเงินเก็บ 20,000 บาท แล้วต้องจ่ายค่ารักษาโรงพยาบาล 50,000 บาท มันอาจไม่พอ แต่ถ้ามีประกันสุขภาพ แค่จ่ายเบี้ยปีละ 15,000 บาท ก็ช่วยคุ้มครองได้หลักล้านบาทแล้วครับ”

3. ใช้คำถามเพื่อสร้างความตระหนัก

“ถ้าวันนึงคุณต้องนอนโรงพยาบาล คุณมีแผนรองรับเรื่องค่าใช้จ่ายไหมครับ? ประกันสุขภาพช่วยแบ่งเบาภาระตรงนี้ได้นะ”

4. เน้นความคุ้มครองที่จำเป็น

“แค่จ่ายเบี้ยวันละ 10 บาท ก็คุ้มครองอุบัติเหตุได้แล้วครับ ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา อย่างน้อยก็ช่วยลดความกังวลให้ครอบครัวได้”

5. ชี้ให้เห็นผลกระทบหากไม่มีประกัน

“หลายคนคิดว่าไม่จำเป็นจนวันนึงต้องเสียเงินก้อนใหญ่เพราะค่ารักษาพยาบาล ถ้ามีประกันไว้ตั้งแต่ตอนนี้ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายทีหลังครับ”

6. ใช้ตัวอย่างจากชีวิตจริง

“ลูกค้าคนหนึ่งเคยบอกว่าไม่อยากทำประกัน แต่พอเกิดป่วยกะทันหัน ต้องจ่ายค่ารักษาเกือบแสน ตอนนี้เขาบอกเลยว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ จะทำประกันตั้งแต่วันแรกที่แนะนำเลยครับ”

เคล็ดลับเพิ่มเติม

  • ฟังความต้องการของเขา ก่อนชวนทำประกัน ถามถึงความกังวลเรื่องสุขภาพ การเงิน หรือครอบครัว
  • อย่าเน้นขาย แต่เน้นช่วยแก้ปัญหา เช่น “ผมอยากช่วยให้คุณมีแผนรองรับหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน”
  • ใช้ภาษาง่ายๆ ไม่ใช้ศัพท์ประกันที่ซับซ้อน