เรื่องเล่าของข้าพเจ้า

ตอนที่ 1 เริ่มต้นไม่ต่างกัน

เรื่องเล่าของข้าพเจ้า ตอนที่ 1

คุณพ่อเสนาะ พิศนุภูมิ ถ่ายกับ พณฯท่าน จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม เมื่อ 21 มกราคม 2498

เมื่อ 31 มกราคม 2534 นับเป็นวันเริ่มต้นของการมีสัญญาตัวแทนประกันชีวิต บริษัท เอไอเอ จำกัด สังกัดหน่วยชุมทอง 24 ยู ภายใต้การบริหารงานโดยท่านผู้จัดการคุณธารินทร์ นันทาภิรักษ์ ระหว่างนั้นผมยังรับราชการทหารเรือเป็นปีที่ 14 ซึ่งการก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจประกันชีวิต ไม่ใช่เป็นเพราะใจรัก หรือว่าอยากเข้ามาทำ แต่เป็นเพราะมีใครบางคนชักจูงให้ผมเข้ามารู้จักเส้นทางสายนี้ต่างหาก บุคคลที่ผมจะลืมไม่ได้ตลอดชีวิตนี้ คือพี่ชายที่ผมเคารพรักที่สุด คุณวีระศักดิ์ พิศนุภูมิ ต้องขอบอกว่าไม่ได้ชวนปุ๊บก็มาปั๊บ แต่ผ่านความยากลำบากมากมายกว่าจะเกิดการยอมรับและยอมที่จะเดินเข้ามาทำงานประกันชีวิต เป็นเรื่องที่กล่าวได้ว่าพลิกชีวิตกันเลยทีเดียว ถ้าจะย้อนเวลาไปดูชีวิตของคนๆหนึ่ง สำหรับการเดินทางอันยาวไกล เกือบจะทุกๆชีวิตของคนบางคนเกิดมาแบบคนธรรมดา สำหรับตัวผมเองนั้นอยู่ในกลุ่มคนธรรมดา เกิดที่บ้านท่าหาด ต.ธรรมามูล อ.เมือง จ.ชัยนาท บ้านอยู่ตรงข้ามวัดมะขามเฒ่า หรือวัดหลวงปู่ศุข เกจิอาจารย์ชื่อดังที่ผู้คนทั่วประเทศให้ความเคารพสักการะ

วัยเด็กมีชีวิตที่เรียบง่าย อยู่ภายใต้การอบรมสั่งสอนของคุณพ่อเสนาะ และคุณแม่สวาท พิศนุภูมิ โดยเฉพาะคุณพ่อเสนาะ ได้อบรมสั่งสอนอยู่ทุกวันทุกคืนก่อนนอน ผมมีหน้าที่ปรนนิบัติคุณพ่อด้วยการนวดแขน นวดขา คุณพ่อจะเล่าเรื่องราวต่างๆนานา เกี่ยวกับวีรกรรมของบรรพบุรุษบ้าง ประวัติของบุคคลสำคัญต่างๆ รวมทั้งนำแนวคิดที่เป็นปรัชญาชีวิตจากหลากหลายแง่มุม มาบอกเล่าให้ฟังอย่างต่อเนื่องและเป็นไปอย่างมีรสชาด นั่นก็หมายความว่าการได้นวดแขน นวดขาให้คุณพ่อ นอกจากจะทำให้ท่านผ่อนคลายความตึงเครียดจากการทำไร่ ทำสวนตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ตัวผมเองยังได้รับความรู้มาสั่งสมไว้อีกด้วย จากวันเป็นเดือน และจากเดือนเป็นปี ยิ่งไปกว่านั้นคุณพ่อยังเฝ้าเพียรกำชับให้ผมท่องศัพท์ ท่องบทอาขยานต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการเรียนรู้ ตามจังหวะของชั้นเรียน ส่งผลให้ชีวิตของผมมีโอกาสสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตการเป็นนักเรียนชั้น ป.4 ได้รับรางวัลที่หนึ่ง รับปากกาด้ามทองจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดที่มอบให้ในงานวันเด็ก ในฐานะที่สอบได้อันดับหนึ่ง 99% นับเป็นความภาคภูมิใจของชีวิตเด็กคนหนึ่งพึงจะได้รับในวัยนั้น ด้วยคุณพ่อเป็นผู้มีความรู้มากมาย หลากหลายแนวทาง จากการที่คุณพ่อเคยเป็นนักหนังสือพิมพ์ สมัยคุณสด กูรมะโลหิต และอีกหลายๆท่านในวงการยุคนั้น คุณพ่อจึงเป็นนักต่อสู้ทั้งในเรื่องของความเป็นธรรมในสังคม การพัฒนาท้องถิ่นที่ตัวเองได้อยู่อาศัย คือบ้านท่าหาด หมู่ 4 ตำบลธรรมามูล อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท สมัยนั้นการสัญจรไปมาจากหมู่บ้านไปยังจังหวัดทำได้เพียงทางเรือ ซึ่งเรือในยุคนั้นเท่าที่เห็นเป็นเรือขนาดปานกลาง มีหลังคา สามารถบรรทุกสินค้าที่ชาวบ้านนำไปค้าขายที่จังหวัด บรรทุกผู้คนที่มีธุระไปติดต่อกับหน่วยงานราชการที่จังหวัดได้ครั้งละไม่มากนัก สำหรับทางบกก็มีเพียงเกวียนเป็นพาหนะ คงบอกได้ว่าถนนที่มีก็แค่ทางเกวียนเท่านั้นเอง

เหตุและปัจจัยเหล่านี้ ทำให้คุณพ่อซึ่งเป็นนักบุกเบิกและเป็นนักต่อสู้ ตามที่คุณพ่อชอบเขียนไว้ตามรูป หรือหนังสือว่า “ชีวิต คือการต่อสู้” ทำให้คุณพ่อได้ระดมรายชื่อ และขอความร่วมมือจากชาวบ้านทุกครัวเรือนให้สละที่ดินจำนวนหนึ่งเพื่อทำการพัฒนาทางเกวียนให้กลายเป็นถนนสายหลัก เพื่อความสะดวกต่อการสัญจรไปมาในอนาคต กระบวนการต่างๆ ที่คุณพ่อเสนาะ พิศนุภูมิได้พยายามทำความเข้าใจกับชาวบ้านทุกครัวเรือน เรื่องราวเหล่านี้มีระยะเวลาการทำงานอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ตั้งแต่สมัยจอมพลถนอม กิตติขจร ส่วนตัวผมเองยังเป็นเด็กอยู่มาก แต่ได้รับรู้เรื่องราวเป็นระยะๆ ซึ่งเรียนรู้สิ่งต่างๆจากการที่ต้องคอยเขียนงานหนังสือช่วยคุณพ่อบ้าง เก็บข้อมูลลงแฟ้มบางอย่างให้บ้าง ช่วยคุณพ่อต้อนรับผู้คนมากมายที่เดินทางเข้ามาขอพบ พร้อมขอคำปรึกษาในเรื่องต่างๆ ในด้านความไม่เป็นธรรม การถูกเอารัดเอาเปรียบในเรื่องต่างๆ ดังนั้นบ้านของเราจึงกลายเป็นศูนย์รวมของการพบปะสนทนาของผู้คนที่มาจากหลายแห่งทุกทิศทาง ณ บ้านเลขที่ 62/1 หมู่ 4 ต.ธรรมามูล อ.เมือง จ.ชัยนาท

เพราะคุณพ่อรู้ดีว่า ชีวิตคือการเดินทาง ต้องมีเสบียงสำคัญที่ควรนำติดตัวไปด้วยเสมอ นั่นคือความรู้ คุณพ่อจึงบังคับให้ผมเรียนรู้ชีวประวัติของบุคคลสำคัญ อาทิเช่น ท่านประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น โสเครติส เดล คาร์เนกี มหาตมะ คานธี คาวัวร์ พร้อมหนังสือดีๆอีกมากมาย เช่นหนังสือบทกลอนของท่านสุนทรภู่ เรื่องขุนช้างขุนแผน พระอภัยมณี ขนาดของหนังสือเล่มใหญ่มากๆ (ในความรู้สึกสมัยนั้น) ตื่นเต้นกับความทุ่มเทพยายามของตัวละครจากหนังสือเคาน์ มองเต คริสโต เรียนรู้กลยุทธ์กลศึกในหนังสือสามก๊ก ประวัติศาสตร์สมัยกรุงศรีอยุธยา เรื่องราวลี้ลับของรัสปูติน ตำนานที่ยิ่งใหญ่ของเจงกิสข่าน ฯลฯ การถูกฝึกให้เป็นนักอ่านตั้งแต่วัยเด็ก ทำให้ความรู้ต่างๆ ซึมซับเข้าสู่สมองของผม และคุณพ่อยังได้ทบทวน หรือหยิบยกประเด็นบางเรื่องมาบอกเล่า แนะนำให้มีภูมิรู้เพิ่มเติม จากการเฝ้าปรนนิบัติบีบนวดคุณพ่อ คืนแล้วคืนเล่า จนผมเองก็เติบโตตามลำดับ

.